อะไรคือ “ยาเฉพาะบุคคล” หรือ “ยาแผนจีน” ตามตำรับแพทย์จีน

 ยาแผนจีน

      อะไรคือ "ยาเฉพาะบุคคล" หรือ "ยาแผนจีน" ตามตำรับแพทย์จีน

      สภาพสังคมในปัจจุบัน เต็มไปด้วยความยุ่งยากซับซ้อน มนุษย์ จึงใฝ่หาอะไรก็ตามที่เรียกว่า "สำเร็จรูป" หรือ "หนทางที่ง่าย" อยู่เสมอโดยเฉพาะอย่างยื่ง เมื่อกล่าวถึงการส่งเสริมสุขภาพและการรักษาพยาบาลนั้น เมื่อเรารู้สึกเจ็บป่วยไม่สบาย เราก็จะมีสูตร "สำหรับทุกคน" เพื่อเอาไว้รักษา เช่น เมื่อไอก็ไปซื้อยาแก้ไอยาแก้เจ็บคอ เมื่อปวดหัวก็กินพารา เป็นต้น

      เมื่อกลายเป็นสูตรสำเร็จ หลายคนจึงมักคิดว่า หากเจ็บป่วยอะไรไป ก็แค่วินิจฉัยโรคและกินยาตามสูตรสำเร็จเท่านั้น ไม่เห็นยากตรงไหน

      สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาและอาจจะไม่ทันสังเกตก็คือ หลายคนอาจจะหายเพียงชั่วคราว และกลับมาเป็นใหม่ เป็นแล้วเป็นอีกรักษาแล้วรักษาอีก จนเรียกได้เต็มปากว่า "เรื้อรัง" เหตุผลก็คือ การรักษาที่ถูกต้องนั้น ไม่ใช่สูตรสำเร็จสำหรับ ทุกคน เพราะหนทางที่ดีที่สุดก็คือ "การจัดยาให้เหมาะตามบุคคล" นั่นเอง หรือเรียกกันสั้นๆว่า ยาตำรับ แบบแพทย์จีนที่ทุกคนคุ้นหูกัน

       เพราะมนุษย์ประสบโรคภัยแตกต่างกัน ดังนั้น วิธีการรักษาการให้ยา ไปจนถึงการบำรุงย่อมจะต้องแตกต่างกันไปด้วย ลักษณะแบบนี้ แพทย์แผนจีนเรียกว่า "แต่งตำราให้เฉพาะคนนั้น" หรือในบางกรณี ผู้มารักษาบอกว่าตนเองไม่ได้ป่วยไข้อะไร แต่พอทำการ "แมะ" ชีพจร กลับพบว่าจริงๆ แล้วมีอาการป่วยอยู่ภายใน เพียงแต่ยังไม่รู้ตัวเอง การรักษาแบบนี้จะต้องคิดให้รอบคอบ นั่นคือ ต้องใช้ยาแบบ "รักษา" ให้หาย ไม่ใช่การใช้ยาแบบ "บำรุง" เพราะอาจจะไปเสริมฤทธิ์ให้ป่วยมากกว่าเดิม

         กรณีของเด็กนั้นแตกต่างออกไปจากผู้ใหญ่ ถ้าเด็กเล็กในระดับเป็นทารก จะไม่สามารถจับชีพจรได้ แพทย์จีนจะใช้การจับเส้นเลือดที่นิ้วชี้ บางครั้งก็เพียงขยับดู จะทำให้เห็นว่าเส้นเลือดของนิ้วชี้มีลักษณะอย่างไร ประสบโรคอะไรหรือไม่ ทั้งมวลเป็นเพราะทารกจะมีหัวใจที่เต้นไม่เหมือนผู้ใหญ่ จับชีพจรไม่ได้ ต้องรอให้อายุถึง 5 ขวบจึงจะสามารถตรวจชีพจรแบบเดียวกับผู้ใหญ่ ในการจัดยา่ให้เด็กก็จะต้องพิเศษกว่า เพราะต้องมีความอ่อนของยามากกว่าผู้ใหญ่ การลดตัวยา การใช้ยาอ่อน คือหลักการสำคัญ และเมื่อเด็กไม่ยอมกินนั้น ก็ต้องมีกลวิธีในการจัดการ นั่นคือให้นำไปใส่น้ำตาลแล้วกรอก พร้อมกับเลือกตัวยาที่ไม่ขนจนเกินไป

         อย่างไรก็ตาม ท้ายสุดแล้วผู้ป่วยจะได้รับการแนะนำจากแพทย์ให้ใส่ใจสุขภาพตนเองเป็นลำดับแรก ไม่ว่าจะทำอะไร จะต้องไม่หักโหม(บางครั้งมนุษย์ขยันจนเกินไป) ทำให้ร่างกายอ่อนแอเสียสุขภาพ ตัวผู้ป่วยจะต้องดูแลรักษาตนเองเป็นลำดับแรกก่อน อีกส่วนที่สำคัญก็คือ อาหารการกิน เพราะจริงๆแล้ว หากเรากินอาหารให้เป็นยา ซึ่งมีผักหลายชนิดที่มีฤทธิ์บำรุงแตกต่างกันออกไป อาทิ เช่น ตำลึง ช่วยดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้แสบคัน แก้เตาแดง เลือกกินอาหารที่บำรุงอวัยวะส่วนที่เจ็บป่วย ก็เหมือนกับการที่เรากินยาจากธรรมชาติอยู่แล้วนั้นเอง

ยาตำรับตามอาการในรูปแบบแคปซูลทานง่าย สกัดจากยาต้มแผนจีน ปราชญาสมุนไพร ไอ-โคพอต (I-KOPOT)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า